วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

เอฟเฟคกีตาร์

          เอฟเฟ็ค (effect) แทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่ชอบเล่นกีตาร์ไฟฟ้า ว่าไม่ต้องการเจ้าสิ่งนี้เพราะมันสามารถทำให้เราปรับแต่งเสียงกีตาร์ของเราได้อย่างอิสระ เช่นต้องการเสียงที่แตกมาก ๆ ต้องการเสียงลากยาว ๆ เอฟเฟ็คในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อและอีกหลากหลายประเภทตามจุดประสงค์การใช้งาน

เอฟเฟ็คแบบก้อน คือตัวเดียวก็เป็นเอฟเฟ็คอย่างเดียวเลยเช่น distortion ก็จะทำหน้าที่เป็น distortion อย่างเดียวเลย

ในขณะที่อีกประเภทจะเป็นเอฟเฟ็ครวม มีเอฟเฟ็คหลาย ๆ ประเภทอยู่ในตัวเดียวกัน ซึ่งแล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน

ปิ๊คกีตาร์


          ปิคกีตาร์ ก็คือวัสดุที่ใช้ดีดลงบนสายกีตาร์แทนนิ้วหรือเล็บเรา ซึ่งจะเหมาะสำหรับการเล่น strum (การตีคอร์ด) หรือการเล่นโซโลของกีตาร์ไฟฟ้า เป็นต้น ปิคทำมาจากวัสดุหลายประเภท แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคงเป็นแบบที่ทำมาจากพลาสติก เพราะหาง่ายและราคาค่อนข้างจะถูก โดยทั่วไปปิคกีตาร์จะแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ


          1 ปิคแบน (flat pick) ก็คือปิคทั่ว ๆ ไปที่เราใช้ดีดกีตาร์นั้นแหละ โดยทั่วไปในการขายจะแบ่งตามขนาด ได้แก่ แบบ thin,medium และ thick ซึ่งก็คือความหนาตั้งแต่ บาง,หนาปานกลาง และหนามาก ตามลำดับ การใช้งานของแต่ละขนาดก็จะขึ้นอยู่กับความถนัดและสไตล์การเล่นกีตาร์ของแต่ละคนเช่น การตีคอร์ดผมมักจะชอบใช้ปิคบาง(thin)เพราะรู้สึกว่ามันพริ้วกว่า แต่ถ้าเล่นกีตาร์ไฟฟ้ามักจะใช้ปิคแบบหนา เพราะรู้สึกว่ามันใช้โซโลได้ดีกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นกับความถนัดของแต่ละคน





          2 ปิคนิ้ว (finger pick) เป็นปิคที่ใช้สวมนิ้วเพื่อใช้กับการเล่นแบบ finger picking style (การเกากีตาร์) ซึ่งจะให้เสียงที่คมชัดกว่าใช้เล็บหรือปลายนิ้ว แต่ก็ขึ้นกับความถนัดหรือความชอบของแต่ละคน บางคนก็ชอบใช้ บางคนก็ไม่ชอบใช้สไตล์ใครสไตล์มัน ปิคประเภทนี้มีอยู่ 2 แบบได้แก่



- ปิคสำหรับนิ้วชี้, นิ้วกลาง และนิ้วนาง เพื่อใช้ในการเล่นสามสายล่าง


- ปิคสำหรับสวมนิ้วโป้ง (thumb pick)เพื่อใช้ในการเล่นสายเบส




แหล่งที่มา : http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m6-2/no19-23/sec03p02.html

โน๊ตบนคอกีตาร์



           อันที่จริงเพื่อนๆคงจะเคยเห็นภาพในลักษณะนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่เข้าใจ หรือยังงงๆอยู่ ผมจะทำให้ กระจ่างเองครับ

           จากรูป เป็นการจำลองภาพบนคอกีต้าร์โดยสายที่ 1 นำจากด้านบน ไล่ลงมาจนถึงสายที่ 6 ซึ่งอยู่ล่างสุด และบน คอกีต้าร์จะถูกแบ่งออกเป็นช่องๆเรียกว่า "เฟรท" ซึ่งเราจะเริ่มนับเฟรทที่ 1 จากช่องแรกด้านซ้ายมือ ไล่ไป
เรื่อยๆ จนสุดคอ กีต้าร์ จากรูปแสดงถึงเฟรทที่ 12 เท่านั้น เพราะถ้าเพื่อนสังเกตุจะเห็นว่า เฟรทที่ 12 มันจะวนมาเจอตัวโน๊ตที่เฟรทแรก ตามภาพด้านบน สายที่ 1 เฟรทที่ 1 = F และ เฟรทที่ 12 ก็ = F เช่นกัน

           อักษรภาษาอังกฤษที่ผมเขียนกำกับเอาไว้ในแต่ละสาย (ด้านซ้ายมือ)หมายถึง ตัวโน๊ตในกรณีดีดสายเปล่าของสาย
นั้นๆ เช่น เมื่อเราดีดสายเปล่าในสายที่ 1 เสียงที่ได้คือเสียง E (หรือโน๊ตตัว "มี" ตามที่อธิบายไว้ในบทแรก แต่ในทางกีต้าร์จะนิยมเรียกตามตัวอักษรภาษาอังกฤษมากกว่า)


          ในแต่ละเฟรทจะห่างกันครึ่งเสียง ยกตัวอย่างจากสายที่ 1
สายเปล่า = เสียง E
หากเรากดนิ้วที่เฟรทที่ 1 จะได้เสียง F (เพราะ E กับ F ห่างกันครึ่งเสียง หรือจำง่ายๆว่า E กับ F ติดกัน)
หากเรากดนิ้วที่เฟรทที่ 2 จะได้เสียง F# หรือ Gb
ข้ามมาเฟรทที่ 7 หากเรากดนิ้วที่เฟรทนี้จะได้เสียง B
และหากกดนิ้วที่เฟรทที่ 8 จะได้เสียง C (นั่นก็เพราะ B กับ C ห่างกันครึ่งเสียง หรือจำง่ายๆว่า B กับ C ติดกัน)
ในที่นี่ผมใส่โน๊ตไว้ให้แค่ 2 สายแรก นอกนั้น อยากให้เพื่อนลองหากันเองน่ะครับ เพื่อจะได้เข้าใจ (จริงๆแล้ว
ขี้เกียจต่างหาก แฮะๆๆ) เอาล่ะครับก่อนที่จะงงกันไปกว่านี้ ผมขอฝากทิ้งท้ายไว้ให้จำหลักง่ายๆว่า E กับ F ติดกัน
และ B กับ C ติดกัน แค่นี้แหล่ะครับ ไม่มีอะไรยาก ในสายที่ 2 ถึง 6 ก็อธิบายเช่นเดียวกัน เพียงแต่ตัวโน๊ต ตั้งต้นจะต่างกันเท่านั้นเอง อ้อ...ลืมบอกไปครับว่า สายที่ 1 และสายที่ 6 เริ่มที่ ตัว E เหมือนกันครับ